วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2554

ดอกไม้ประจำชาติจีน (ดอกโบตั๋น)


ดอกโบตั๋นหรือในภาษาจีนเรียกว่า หมู่ตัน (mǔ)(dān)(huā)เป็นดอกไม้สวยงาม สีสันสดใส และมีกลิ่นหอม มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ในยุคแรกชาวจีนนำดอกโบตั๋นมาเป็นทำเป็นยาสมุนไพร หลังจากนั้นก็ค่อยๆมีจิตรกรนำดอกโบตั๋นมาวาดไว้ในงานศิลปะ ชาวจีนเชื่อว่า ดอกโบตั๋นนี้เป็นดอกไม้ที่มีสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวย ในสมัยราชวงศ์ชิงนั้นได้กำหนดให้ดอกโบตั๋นเป็นดอกไม้ประจำชาติจีน แต่หลังจากราชวงศ์ล่มสลาย พรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นมามีอำนาจ ทำให้ไม่มีการแต่งตั้งดอกไม้ประจำชาติจีนอย่างเป็นทางการ จนกระทั่งสมัยอดีตนายกรัฐมนตรีโจวเอินไหล เขาได้เดินทางไปยังเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนาน ได้เยือนแหล่งเพาะปลูกดอกโบตั๋นที่มีชื่อเสียง แต่เนื่องจากขาดการสนับสนุน ทำให้ผลผลิตที่ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร อดีตนายกฯได้กล่าวกับอาคันตุกะชาวต่างชาติว่า ดอกโบตั๋นนั้นเป็นดอกไม้ประจำชาติจีน เป็นดอกไม้ที่น่าอัศจรรย์และสง่างามมาก มันเป็นสัญลักษณ์แห่งความสุขและความมั่งมีศรีสุขของประเทศ เราจะต้องปกป้องมันอย่างเร่งด่วนหลังจากนั้นดอกโบตั๋นก็ค่อยๆเริ่มกลับมามีชื่อเสียงและเจริญงอกงามอีกครั้ง เมืองลั่วหยางเองก็ได้มีการจัดงานเทศกาลชมดอกโบตั๋นขึ้นเป็นประจำทุกปี ปัจจุบันนอกจากในประเทศจีนแล้ว ยังได้มีการปลูกดอกโบตั๋นในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ อังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา แคนาดา เป็นต้น




ดอกซากุระ



       "ซากุระ" มาจากคำเก่าแก่สองคำ คือ "ซา" หมายถึง วิญญาณแห่งพืชพันธุ์  และ  "กุระ" หมายถึง ที่ประทับของเทพเจ้า ดังนั้นคำว่า "ซากุระ" จึงหมายถึง ที่สถิตของจิตวิญญาณแห่งพืชพันธุ์ทั้งปวงในแง่ของตำนาน ซากุระเกิดขึ้นมาเพราะเทวนารีองค์หนึ่ง คือ โคโนะฮานะ ซากุยะ ฮิเมะ เชื่อกันว่า พระนางเป็นผู้ริเริ่มปลูกซากุระขึ้นเป็นครั้งแรก จึงได้ชื่อตามพระนามของนาง

              โคโนะฮานะ ซากุยะ ฮิเมะ เป็นธิดาของโอโฮยามัทซูมิ เทพแห่งภูเขา วันหนึ่งพระนางได้พบเทพนินิงิที่ชายทะเล และตกหลุมรักซึ่งกันและกัน เทพนินิงิทูลขอเทพโอโฮยามัทซูมิเพื่อขอนางมาเป็นชายา ในตอนแรก เทพโอโฮยามัทซูมิได้เสนอธิดาอีกพระองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นเทพีแห่งก้อนหินมาเป็นคู่สยุมพรแทน แต่เทพนินิงิไม่ยอม  พระองค์ยังยืนกรานในรักมั่นที่มีต่อเทวี แห่งซากุระ ในที่สุดจึงได้วิวาห์ดังที่ปรารถนา หลังอภิเษกได้เพียงวันเดียวเทพีโคโนะฮานะ ซากุยะ ฮิเมะก็ทรงครรภ์ เทพโอโฮยามัทซูมิทรงคลางแคลงพระทัยว่าบุตรในท้องไปลูกของพระองค์จริงหรือไม่
การที่เทพีโคโนะฮานะ ซากุยะ ฮิเมะ ได้กำเนิดโอรสในกองเพลิงนี่เอง ทำให้ชาวบ้านเชื่อกันว่า พระนางควบคุมไฟได้ เลยก็เลยมีการสร้างศาลบูชาพระนางขึ้นที่ตีนภูเขาไฟฟูจิในปี ค.ศ.806 ด้วยความหวังว่า พระนางจะช่วยไม่ให้ภูเขาไฟพิโรธ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน พระนางจึงกลายเป็นเทพีแห่งภูเขาไฟฟูจิด้วย จนถึงทุกวันนี้ ผู้ที่ไปเยือนภูเขาไฟฟูจิมักจะแวะไปศักการะศาลของพระนางและเชื่อกันอีกอย่างว่า เมล็ดพันธุ์ของต้นซากุระที่พระนางนำมาปลูกเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นนั้น ก็มาจากภูเขาไฟฟูจิซึ่งพระองค์ดูแลอยู่นี่เอง
นอกจากนั้น พระนางยังเป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ ความปลอดภัยในบ้านและเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นดี ให้ผู้คนได้ตามที่หัวใจปรารถนาด้วย

ดอกป็อปปี้สีฟ้า

ดอกไม้ประจำชาตภูฏาน
ดอกป๊อปปี้สีฟ้า (Blue Poppy) ดอกไม้ป่าที่ขึ้นอยู่บนภูเขาในที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 เมตร ขึ้นไป ป๊อปปี้สีฟ้าเป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ  1 เมตร ขึ้นอยู่ตามซอกหินบนภูเขาสูง ดอกมีสีฟ้ากับสีม่วงอ่อน กับมีเกสรเป็นเส้นใยสีขาว และกลีบดอกค่อนข้างบอบบาง ออกดอกปีละครั้งตอนต้นฤดูมรสุม (ระหว่างปลายเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม) เมื่อออกดอกให้เมล็ดแล้วต้นก็จะตายไป เมล็ดดอกป๊อปปี้สีฟ้า มีน้ำมันมาก พบมากทางบริเวณตะวันออกของประเทศเรื่อยไปจนจรดทิศตะวันตก

ดอกมูกุงฮวา

ดอกไม้ประจำชาติเกาหลี


คือดอกมูกุงฮวา (무궁화) หรือ Rose of Sharon ซึ่งจะบานสะพรั่งทั่งประเทศระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม สิ่งที่ทำให้ดอกไม้ชนิดนี้ไม่เหมือนดอกไม้ชนิดอื่นคือสามารถทนสภาพอากาศที่เลวร้ายและศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี ความหมายของคำว่า มูกุงฮวา มาจากรากศัพท์ มูงกุง (무궁) ซึ่งหมายถึงความเป็นอมตะ ซึ่งสะท้อนความเป็นอมตะของประวัติศาสตร์เกาหลี ความมุ่งมั่น และความอดทนของชาวเกาหลี


ดอกEdelweiss

ดอกไม้ประจำชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์

Edelweiss เป็นดอกไม้ธรรมชาติที่อยู่บนภูเขาในแถบยุโรปและได้รับการยกย่องว่ามีความสวย งามจนเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเหมือนดอกบัวตองในบ้านเรา  ซึ่งชื่อ Edelweiss นี้เป็นชื่อในภาษาเยอรมัน แปลได้ว่า ขาว และสูงศักดิ์ เป็นดอกไม้ขนาดเล็กที่ขึ้นในที่สูงตั้งแต่ 1,700 – 2,700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เป็นดอกไม้ที่ถือว่าเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของหุบเขาแอลป์เลยทีเดียว

ดอก ลำดวน

ดอก ลำดวน

ดอกไม้ประจำชาติของราชอาณาจักรกัมพูชา ดอก Rumdul ก็คือดอก ลำดวน นั่นเอง
ชื่อวิทยาศาสตร์  Melodorum Fruticosum
ชื่อวงศ์     ANNONACEAE

ลำดวนเป็นไม้ต้นสูง 8-20 เมตร ทรงพุ่มรูปกรวยคว่ำและแน่นทึบ ลำต้นตรงแตกกิ่งและใบจำนวนมาก ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับสองด้าน ใบรูปรีแกมขอบขนานกว้าง 3-4 ซม. ยาว 5-12 ซม. ปลายใบแหลม ดอกเป็นดอกเดี่ยวสีเหลืองนวลออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ก้านดอกยาว 2-3 ซม. กลีบดอกหนาและแข็งมี6 กลีบ เรียงเป็นสองชั้น ชั้นละ 3 กลีบ กลีบดอกชั้นนอกรูปไข่ ปลายแหลม กลีบกางออก ปลายกลีบงองุ้มเข้าเล็กน้อย เมื่อบานแล้วจะโค้งกลับไปทางโคนดอก กลีบใน 3 กลีบ งุ้มเข้าหากันเป็นรูปสามเหลี่ยม เมื่อดอกบานมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. มีกลิ่นหอม แต่ละต้นจะมีช่วงดอกบานอยู่ประมาณ 15 วัน ในช่วงเดือน ธันวาคม-มีนาคม

ดอกกล้วยไม้ราตรี

ดอกกล้วยไม้ราตรี


ดอกไม้ประจำชาติอินโดนีเซีย  ดอกกล้วยไม้ราตรี
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cestrum Nocturnum
วงศ์ : solanaceae
ชื่อสามัญ : Night Jessamine
ชื่ออื่น ๆ : Lady of the Night ,ราตรี, หอมดึก
ราตรีเป็นดอกไม้ ที่มีกลิ่นหอมในเวลากลางคืนเมื่อมีดอกมันจะส่งกลิ่นไปไกล กลิ่นไม่ฉุนจนเกินไป มีกลิ่นเย็นเรื่อย ๆ ทำให้ได้อีกชื่อหนึ่งว่า หอมดึก ส่วนมากนิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือน มีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะอินดีส